ริดสีดวง รู้ไห้ทันรักษาได้ไว
ริดสีดวง (Hemorrhoids) เป็นภาวะที่หลอดเลือดดำบริเวณทวารหนักมีการโป่งพอง บวมซึ่งสามารถเป็นพร้อมกันหลายตำแหน่ง โดยแบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ
ริดสีดวงภายใน (Internal Hemorrhoids) ริดสีดวงภายใน จะเกิดขึ้นภายในทวารหนัก โดยหลอดเลือดที่โป่งพองอาจจะไม่โผล่ออกมาให้เห็น และไม่สามารถคลำได้ จะตรวจพบต่อเมื่อตรวจโดยแพทย์เท่านั้น ซึ่งมี 4 ระยะของโรคนั่นคือ
– ระยะที่ 1 หัวริดสีดวง ยังเกิดอยู่ภายในทวารหนัก แต่ไม่มีก้อนเนื้อยื่นออกมา อาจมีเลือดสด ๆ ขณะถ่ายหรือหลังถ่ายอุจจาระ
– ระยะที่ 2 หัวริดสีดวงปลิ้นโผล่ออกมาในขณะขับถ่าย แต่หัวริดสีดวงสามารถกลับเข้าไปเองได้
– ระยะที่ 3 หัวริดสีดวงปลิ้นโผล่ออกมาในขณะขับถ่าย แต่หัวที่โผล่ออกมาต้องใช้มือดันกลับเข้าไป
– ระยะที่ 4 หัวริดสีดวงยื่นออกมานอกทวารหนักตลอดเวลา
ริดสีดวงภายนอก (External Hemorrhoids)
จะเกิดขึ้นบริเวณหูรูดทวารหนัก จากการที่กลุ่มหลอดเลือดดำใต้ผิวหนังปากทวารหนักโป่งพอง สามารถมองเห็นและคลำได้หากมีรอยโรคอาจมีอาการเจ็บปวด
7 กลุ่มเสี่ยงเป็น “ริดสีดวง”
– พันธุกรรม เพราะพบโรคได้สูงกว่า เมื่อครอบครัวมีประวัติเป็นโรคริดสีดวงทวาร
– นั่งถ่ายนานเกินไป เช่น นั่งเล่นมือถือ หรืออ่านหนังสือนานๆ
– ท้องผูก หรือท้องเสียเรื้อรัง การอุจจาระบ่อยๆจะเพิ่มความดัน และ/หรือการบาดเจ็บต่อกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือด
– อายุมากขึ้น จะมีการเสื่อมของเนื้อเยื่อต่างๆรอบหลอดเลือด รวมทั้งของกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือด หลอดเลือดจึงโป่งพองได้ง่าย
– ตั้งครรภ์ เพราะน้ำหนักของครรภ์จะกดทับลงบนกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือด จึงเกิดหลอดเลือดบวมพองได้ง่าย
– เซ็กส์ทางทวารหนัก จึงเกิดการกดเบียดทับ/บาดเจ็บต่อกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือดส่วนนี้เรื้อรัง จึงมีเลือดคั่งในหลอดเลือด เกิดโป่งพองได้ง่าย
– น้ำหนักตัวเกิน ส่งผลให้เพิ่มแรงดันในช่องท้องและในอุ้งเชิงกรานสูงขึ้น เช่นเดียวกับในหญิงตั้งครรภ์